หลังจากพบคลัสเตอร์นักเรียนนายสิบตำรวจ ซึ่งอยู่ภายในศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 7 ตำบลไพรสะเดา อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 179 นาย ล่าสุดพบนักเรียนนายสิบตำรวจ ติดเชื้อเพิ่มอีก 19 นาย ทำให้ขณะนี้นักเรียนนายสิบตำรวจ ติดเชื้อพุ่งเป็น 198 นาย แล้ว และยังมีแม่บ้านอีก 3 คน ซึ่งทั้งหมดได้รับการคัดแยก เข้ารับการดูแลรักษาตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ขณะที่ผู้บังคับบัญชาก็บอกว่าจะดูแลนักเรียนนายสิบตำรวจทุกนายอย่างดีที่สุด พร้อมทั้งตั้งศูนย์ประสานงาน ให้ข้อมูลกับญาติ และครอบครัวของนักเรียนนายสิบตำรวจที่ติดเชื้อ เพื่อความสบายใจ
ส่วนที่มาของการแพร่ระบาด ขณะนี้ทางศูนย์ฝึกฯ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ว่าเชื้อมาจากที่ใด เนื่องจากในพื้นที่ไม่ให้นักเรียนเข้า-ออก มีเพียงแม่บ้าน และคนที่ออกมาซื้อกับข้าวเข้าไปประกอบอาหารเท่านั้น และทุกคนก็ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว จึงได้ตัดระบบแม่ครัวการทำอาหารออกไป แล้วใช้การสั่งข้าวกล่องมาส่งแทน เพื่อลดความเสี่ยงที่จะนำเชื้อเข้ามาแพร่กระจาย เพราะขณะนี้ภายในศูนย์ฝึกฯ ยังมีกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังอีกนับร้อยนาย เนื่องจากบางคนอาจจะยังไม่แสดงอาการ จึงต้องตรวจซ้ำทุก 7 วัน และ 13 วัน ตามวงรอบที่สาธารณสุขกำหนด
ส่วนที่จังหวัดอุบลราชธานี คลัสเตอร์โรงเรียนก็ติดเชื้อพุ่งไม่หยุด ล่าสุด พบนักเรียนชั้นอนุบาล และชั้นประถมศึกษา ในพื้นที่อำเภอเมืองอุบลราชธานี ติดเชื้อจากรถตู้รับส่งนักเรียนแล้ว 59 คน และยังมีต่างอำเภอที่ติดเชื้อจากผู้ปกครองแพร่สู่เพื่อนในห้องเรียนอีก 203 คน นอกจากนี้ยังมีเด็กที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงอีกกว่า 2,000 คน ทางจังหวัดจึงได้สั่งปิดการเรียนแบบออนไซต์แล้ว 7 โรงเรียน แล้วให้เรียนทางออนไลน์แทน
ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี ได้นำรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย พระราชทาน ไปตรวจหาเชื้อเชิงรุกคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงคลัสเตอร์นักเรียน ซึ่งมีทั้งครู นักเรียน บุคลากรของโรงเรียน ซ้ำเป็นรอบที่ 2 เพื่อนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการดูแลรักษา ส่วนคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงก็ให้กักตัวสังเกตอาการ เพื่อหยุดการแพร่เชื้อ