ข่าวดึก 7HD – คนขับรถแท็กซี่ป้ายดำ ท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี ที่ผู้โดยสารอ้างว่าใช้อุบายหลอกให้เข้าห้องน้ำแล้วเชิดกระเป๋าสัมภาระที่มีทรัพย์สินนับแสนบาทหลบหนี ได้ไปพบตำรวจ ยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองแล้ว
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ขณะที่ นายลำซำ แซ่หล่ำ อายุ 45 ปี นักท่องเที่ยวลูกครึ่งไทย-ฮ่องกง กับ นางสาวปวีณา พวงผกา อายุ 32 ปี เพื่อนสาว เดินทางจากกรุงเทพมหานคร ไปลงเครื่องบินที่ท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี และได้ว่าจ้างรถแท็กซี่ป้ายดำให้ไปส่งที่อำเภอเขมราฐ เพื่อเดินทางไปทำบุญ ตกลงค่าโดยสารกันที่ ราคา 1,000 บาท
ระหว่างการเดินทางไปตามถนนสายอุบลราชธานี-ตระการพืชผล คนขับรถแท็กซี่ ซึ่งเป็นชายวัยกลางคน กลับออกอุบายสอบถามว่าจะเข้าห้องน้ำหรือไม่ นายลำซำ ก็ตอบกลับไปว่าขอแวะร้านสะดวกซื้อดีกว่า เพราะต้องการซื้อของใช้ส่วนตัวก่อนจะเข้าวัด กระทั่งมาถึงปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง คนขับรถแท็กซี่ก็แวะจอด และทั้ง 2 คนก็เข้าไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อ รวมทั้งน้ำดื่มให้กับคนขับรถแท็กซี่ด้วย แต่พอเดินกลับออกมา ปรากฎว่ารถแท็กซี่ขับหนีไปแล้ว แต่ก็ยังมองในทางที่ดีว่าอาจจะไปทำธุระแล้วคงจะย้อนกลับมารับ จึงได้นั่งรออยู่ประมาณ 10 นาที แต่ก็ยังไม่กลับมา จึงรู้ว่าน่าจะถูกทิ้งให้อยู่ในปั๊มน้ำมัน โดยที่คนขับรถแท็กซี่ยังได้นำกระเป๋าสัมภาระหนีไปด้วย 3 ใบ ซึ่งภายในมีทรัพย์สินอยู่รายการมูลค่านับแสน และไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองอุบลราชธานี
ล่าสุด คนขับรถแท็กซี่ป้ายดำ อายุ 62 ปี ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี แล้ว เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ ยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่จะทิ้งผู้โดยสาร และเอาทรัพย์สินหลบหนี แต่ระหว่างที่ผู้โดยสารแวะซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมัน ตัวเองรู้สึกปวดท้อง จึงขยับรถออกจากช่องจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อไปจอดอยู่หน้าห้องน้ำในปั๊มน้ำมัน และเข้าไปถ่ายหนักในห้องน้ำคนพิการประมาณ 10 นาที เมื่อกลับไปรอผู้โดยสารที่หน้าร้านสะดวกซื้อเหมือนเดิม แต่ก็ไม่พบผู้โดยสารทั้ง 2 คนแล้ว ซึ่งพยายามออกตามหาแต่ก็ไม่พบ
ขณะที่ ขนส่งจังหวัดอุบลราชธานี ก็ได้ไปตรวจสอบที่รถแท็กซี่ที่ให้บริการ พบว่าจดทะเบียนถูกต้อง แต่นำรถมาให้บริการผิดประเภท เนื่องจากรถที่จะใช้รับส่งจากสนามบินไปยังสถานที่ต่าง ๆ ต้องเป็นรถบริการธุรกิจป้ายเขียว เมื่อนำรถป้ายดำมาใช้จึงมีความผิดตามมาตรา 21 พ.ร.บ.ขนส่ง มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท