เร่งเช็กภาพกล้องหน้ารถ-วงจรปิด หาสาเหตุอุบัติเหตุรถตู้ 11 ราย ผู้รอดชีวิตยังนอนผวา
ตำรวจเร่งสืบสวนหาหลักฐานจากกล้องวงจรปิดและกล้องหน้ารถหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุรถตู้ที่มีผู้เสียชีวิต 11 ราย ขณะที่ผู้รอดชีวิตรายเดียวนอนผวาได้กลิ่นไหม้เตรียมบวชอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต
กรณีรถตู้โดยสารไม่ประจำทางของห้างหุ้นส่วนจำกัด มนตรีทรัพย์เจริญ เลขทะเบียน 30-0078 อำนาจเจริญ ประสบอุบัติเหตุเสียหลักตกร่องกลางถนนแล้วเฉี่ยวชนการ์ดเรลบนทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ ช่วงขาเข้ากรุงเทพมหานคร หลักกิโลเมตรที่ 100+600 บ้านมอจะบก หมู่ 6 ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เป็นเหตุให้เพลิงไหม้ลุกท่วมรถคลอกผู้โดยสารและผู้ขับขี่เสียชีวิตคาที่ 11 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย
เมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ต.อ.ยงยศ พลเดช ผกก.สภ.สีคิ้ว เปิดเผยความคืบหน้าของคดีว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ว่าเกิดจากคนขับหรือเกิดจากมีรถของบุคคลที่ 3 ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทาง พล.ต.ต.บุญชัย ฤาชัยสา ผบก.ศพฐ.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ พฐ.ภาค 3 ลงพื้นที่ตรวจสอบซากรถตู้อีกครั้งเพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตภายในรถตู้ถึง 11 ราย ซึ่งจากการลงพื้นที่ของทาง พฐ.ภาค 3 พบว่าบริเวณถังน้ำมันมีรอยรั่วซึ่งเกิดจากรถตู้ได้พุ่งชนกับการ์ดเรลแล้วลอยขึ้นจนทำให้ถังน้ำมันไปกระแทกกับเสาของการ์ดเรลจนทำให้เกิดรอยรั่วทำให้น้ำมันไหลออกมาติดกับประกายไฟที่เกิดจากการที่รถตู้เสียดสีกับการ์ดเรลจนเกิดเพลิงไหม้ในที่สุด
พ.ต.อ.ยงยศยังกล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็เร่งหาหลักฐานกล้องวงจรปิดและกล้องหน้ารถของประชาชนที่ผ่านในช่วงเวลาเกิดเหตุพร้อมกับมีการสอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ในคืนวันเกิดเหตุเพื่อสืบสวนหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ซึ่งจากการสอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ยังไม่มีใครทราบถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้
จึงทำให้ตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังคงเร่งหาหลักฐานจากกล้องหน้ารถเพิ่มเติมเนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่มีผู้เสียชีวิตถึง 11 ราย และเป็นที่สนใจของประชาชนจึงจำเป็นต้องสืบสวนหาหลักฐานเพื่อความรัดกุมในสำนวนและเพื่อความเป็นธรรมของญาติคนขับและญาติของผู้เสียชีวิต
ดังนั้นขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ขับรถผ่านในช่วงเวลาเกิดเหตุและมีกล้องหน้าหรือหลังรถที่บันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้อยากให้นำมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สีคิ้วเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการสืบสวนต่อไป
ขณะที่ทางด้านนายธนชิต กิ่งแก้ว ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้เดินทางกลับไปอาศัยอยู่กับพ่อที่จังหวัดอุบลราชธานีและเตรียมตัวบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตทั้ง 11 ราย
นางศิริจันทร์ อัสศวภูมิ อายุ 40 ปี แม่ของผู้รอดชีวิต บอกว่า หลังจากเกิดเหตุน้องได้กลิ่นไหม้อยู่ตลอดและมีอาการนอนไม่ค่อยหลับในช่วงแรกที่กลับมาจากจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งตัวน้องเองก็รู้สึกสลดใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยภาพเหตุการณ์วันนั้นยังติดตาและติดอยู่ในใจตลอด ทั้งภาพขณะเกิดเหตุไฟกำลังลุกไหม้ เสียงคนในรถทั้งเด็กและผู้ใหญ่ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด แต่น้องเองก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย จึงอยากจะบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตทั้ง 11 ราย
โดยพิธีอุปสมบทจะจัดขึ้นหลังจากที่ญาติผู้เสียชีวิตทั้งหมด ประกอบพิธีทางศาสนาคือการฌาปนกิจครบทั้ง 11 ราย และทางกฎหมายดำเนินคดีจนเสร็จสิ้น เนื่องจากญาติผู้เสียชีวิตและเจ้าของรถตู้จะร่วมเป็นเจ้าภาพในพิธีด้วย
นอกจากนี้ทางครอบครัวและน้องมีความตั้งใจจะบวชให้ผู้เสียชีวิตรายละ 1 เดือน รวมถึงบวชให้ตัวน้องเองรวมเป็นทั้งหมด 12 เดือน โดยวัดที่จะประกอบพิธีอุปสมบท คุณพ่ออยากจะให้บวชวัดในพื้นที่ภูมิลำเนาคือวัดหนองเมือง อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี