ควันหลังศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตลอด 4 วัน 4 คืน จบลงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทั้ง 6 คน ได้รับเสียงส่วนใหญ่จาก ส.ส. ‘โหวตไว้วางใจ’ ให้ทำหน้าที่ต่อไป ไม่มีใคร ‘ตกเก้าอี้’ แต่เรื่องราวระหว่างศึกซักฟอก หลังศึกซักฟอกมีเรื่องราวให้ชวนติดตาม พูดถึง กลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมือง ทั้งพรรคฝ่ายรัฐบาล พรรคฝ่ายค้าน
ซีกรัฐบาลเล่นกันแรง โดยเฉพาะใน พรรคพลังประชารัฐ ที่มีกระแสข่าวลืออย่างหนาหู เชื่อมโยงไป ‘ธรรมนัส พรหมเผ่า’ เลขาธิการพรรคและ รมช.เกษตรและสหกรณ์ รวบรวม ส.ส.เคลื่อนไหว ล็อบบี้ถึงขั้นจะลงมติ ‘ไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรี’ กันเลยทีเดียว แม้ภายหลังจะเคลียร์ใจกันลงตัว บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ บอกไม่ติดใจ คล้อยหลังไม่นานนัก วันประชุมคณะรัฐมนตรี มีกระแสข่าวเล็ดลอด พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ ‘บิ๊กป๊อก-พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา’ รมว.มหาดไทย บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ ขมึงตึงต่อธรรมนัส ก็คงต้องตามดูกันต่อไป กลเกมช่วงชิงอำนาจนี้จะจบลงอย่างไร
ในส่วนของพรรคฝ่ายค้าน ที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ระหว่างอภิปราย ดูจะเสียรังวัดไม่น้อย ผู้อภิปรายส่วนใหญ่ โชว์ฟอร์มได้ต่ำกว่า คอการเมืองคาดหวัง เนื้อหา ข้อมูลอภิปราย ไม่มีอะไรใหม่ ให้เรียกเสียงฮือฮาได้ มีแค่วาทกรรมรุนแรง เสียดสี ช่วงอภิปราย ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีปมขัดแย้งอะไร ‘สมพงษ์ อมรวิวัฒน์’ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกหนังสือส่งไปยัง ส.ส.เพื่อไทย ห้ามโหวตสวนกับมติพรรคอย่างเด็ดขาด ขณะที่ ‘ประเสริฐ จันทรรวงทอง’ เลขาธิการพรรค คาดโทษล่วงหน้า วันลงมติ ห้ามป่วย ห้ามลา ห้ามขาด ใครฝ่าฝืนโหวตสวน จะถูกลงโทษจากทางพรรคอย่างรุนแรง
ผลปรากฏว่า ในวันลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ส.ส.เพื่อไทย 7 คน ‘นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ’ ส.ส.อุตรดิตถ์, ‘นายชัยยันต์ ผลสุวรรณ์’ ส.ส.ปทุมธานี, ‘น.ส.พรพิมล ธรรมสาร’ ส.ส.ปทุมธานี, ‘นายธีระ ไตสรณกุล’ ส.ส.ศรีสะเกษ, ‘นพ.จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์’ ส.ส.ศรีสะเกษ, ‘นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร’ ส.ส.นครนายก, ‘นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ’ ส.ส.อุบลราชธานี ฝ่าฝืนมติพรรค
แม้งานนี้ จะไม่มีใครแหกคอกรุนแรง โหวตไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ท่าทีของ 3 ส.ส.ที่ไม่เข้าร่วมในการโหวต กับอีก 4 คน ที่ไม่โหวตตามมติพรรค และมีส.ส.บางคนกล่าวให้ร้ายต่อพรรค ทำให้พรรคเสียหาย เป็นเหตุให้บิ๊กเพื่อไทยควันออกหู เตรียมงัดมาตรการขั้นเด็ดขาด
กระบวนการสืบสวน หาข้อเท็จจริง ให้เวลา ส.ส.ทั้ง 7 คน ที่นาทีนี้ยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา เข้าชี้แจงทางวาจา หรือแสดงข้อมูลหลักฐานเป็นเอกสาร กรณีผู้ที่ไม่มาร่วมโหวต เนื่องจากเจ็บป่วยกะทันหัน ติดโควิด โรคหัวใจ ต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนนั้น จะมีการสืบสวนเชิงลึก ตรวจสอบอย่างเข้มข้นอีกครั้งจากคณะกรรมการวินัยจริยธรรมของพรรค และคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลอภิปรายของพรรค จะฟังขึ้นหรือไม่ โดยขีดเส้นให้มาชี้แจงภายในวันที่ 10 ก.ย.นี้
ในการไต่สวน สืบหาข้อเท็จจริง ที่หลังจากนั้น สัปดาห์หน้าคงจะได้รู้ผลแล้วว่า บทลงโทษจากทางพรรคที่มีต่อ ส.ส.แต่ละคน จะออกมาเป็นอย่างไร บทลงโทษตามข้อบังคับพรรค ‘เบาไปหนัก’ ว่ากล่าวตักเตือน ไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งหน้า ขับออกจากสมาชิกพรรค
แม้ผลการสอบ ผลสรุปยังไม่ออกมา มีกระแสข่าวเล็ดลอดออกมา 3 ส.ส.จะโดนลงโทษสถานหนัก ประกอบด้วย นพ.จาตุรงค์, น.ส.พรพิมล, นายศรัณย์วุฒิ ตามที่ทางพรรคอ้างว่ามีข้อมูลเชิงลึก ค่อนข้างชัดเจน เอาผิด ส.ส.แต่ละคน
พรรคเพื่อไทย สวมบท มาดเข้ม หลังจากปล่อยปละมานาน เกิดกรณี ส.ส.ของพรรค ลองของ โหวตสวนกับพรรคมานานตั้งแต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจปี 2563 การลงมติต่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี และการอภิปรายไม่ไว้วางใจปี 2564
เรื่องราวในอดีต เพื่อไทย ทำท่าจะเล่นงานอย่างเด็ดขาด แต่ก็ปล่อยเรื่องราวเนิ่นนานผ่านมา จนเกิดการทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะหย่อนยานในการจัดการ อะลุ้มอล่วยจนเกินไป
งวดนี้ เพื่อไทย ขึงขัง เตรียมจัดการ เอาจริงเอาจัง พวกฝ่าฝืนมติพรรค จัดประเภท พวกโหวตไม่เป็นไปตามทิศทางพรรค กาหัวเป็นพวกงูเห่า ทว่างูไม่แสดงตัว ยังแอบแฝงในพรรค จะจัดการอย่างไร.