เผยแพร่:
ปรับปรุง:
ศูนย์ข่าวศรีราชา – เกิดอุบัติเหตุหมู่ หนุ่มอุบลฯขับรถยนต์กระบะหักหลบรถจักรยานยนต์เสียหลักชนประสานงากับรถยนต์กระบะรับส่งพนักงานโรงงานมาเต็มคัน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 11 ราย
เวลาประมาณ 19.30 น.วันนี้ ( 6 มี.ค. ) ศูนย์วิทยุกู้ภัยเพียวเยี่ยงไท้ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์กระบะชนกับรถรับส่งพนักงานโรงงานแห่งหนึ่ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก บนถนนสายหนองปรือ-เขาชี หมู่ 6 ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ รถพยาบาลกู้ชีพ ลั่นทม โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองขาม เข้าร่วมตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ อีซูซุดีแมค สีขาว หมายเลขทะเบียน ผจ 3383 อุบลราชธานี มีนายสราวุฒิ บุญสา อายุ 29 ปี เป็นผู้ขับขี่มา ข้ามเลนมาชนกับรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแมค สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน นง 5276 ชลบุรี ซึ่งเป็นรถรับส่งพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บนอนร้องครวญครางเกลื่อนถนนกว่า 10 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ทำการปิดถนน ก่อนเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอย่างเร่งด่วน โดยพบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า มีโอ สีแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนล้มคว่ำอยู่ด้วย
จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 11 ราย เป็น ชาย 2 ราย หญิง 9 ราย ทั้งหมดมีบาดแผลถลอกตามร่างกาย มีอาการทางกระดูก เจ็บปวดศีรษะ เจ็บปวดตามร่างกาย และมีบาดแผลฉีกขาด ซึ่งหนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บมีอาการสาหัส 1 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนลำเลียงนำส่งรักษาต่อยังโรงพยาบาลในพื้นที่อำเภอศรีราชา
จากการสอบถามผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเปิดเผยว่า ตนเองนั่งรถกระบะรับส่งพนักงานเตรียมจะไปทำงาน ขณะนั้นตนเองนั่งหลับอยู่ด้านหลังรถ ก็ต้องตกใจตื่นเมื่อได้ยินเสียงรถเบรก ก่อนที่รถจะชนกันอย่างแรง หลังจากนั้นก็มารู้ตัวอีกทีก็ได้รับบาดเจ็บกองอยู่ท้ายรถกระบะแล้ว
จากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่คาดว่า รถยนต์กระบะที่มีนายสราวุฒิ เป็นคนขับมานั้น ได้ขับผ่านโค้งมาก่อนจะหักแซงรถจักรยานยนต์ที่ขี่มาด้านหน้า ก่อนจะกินเลนข้ามฝั่งไปชนกับรถกระบะรับส่งพนักงานที่วิ่งสวนมาพอดี ทำให้หักหลบไม่ทัน ชนประสานงากันอย่างจัง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากดังกล่าว ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมถ่ายภาพเก็บหลักฐานในเบื้องต้น ก่อนรอให้ผู้ได้รับบาดเจ็บรักษาอาการให้หายดีเสียก่อน แล้วจะได้นัดทั้งสองฝ่ายมาสอบสวนดำเนินการตามกระบวนกฎหมายต่อไป