ภูมิภาค
อุบลฯปิดอบรม “โคก หนอง นา โมเดล” สู่เป้าหมายประชาชนมีความสุข
วันศุกร์ ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564, 23.59 น.
คลิกที่นี่
ผู้ว่าอุบลฯ ปิดการอบรม “โคก หนอง นา โมเดล” กิจกรรมที่ 1 ผู้ผ่านการอบรมขานรับ น้อมนำศาสตร์พระราชา ขยายผลสู่พื้นที่ เพื่อให้ประชาชนมีความสุข
วันที่ 12 ก.พ.2564 ณ ศูนย์เรียนรู้ทุนชุมชน (ศูนย์สารภีท่าช้าง) ตำบลท่าช้าง อำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานในพิธีปิดโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” กิจกรรมที่ 1 ฝึกอบรมเพิ่มทักษะระยะสั้นการพัฒนากสิกรรมสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียงรูปแบบ โคก หนอง นา โมเดล รุ่นที่ 4 ดำเนินการระหว่างวันที่ 8–12 กุมภาพันธ์ 2564 โดยมีนายคมกริช ชินชนะ พัฒนาการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นผู้กล่าวรายงานสรุปผลการการฝึกอบรมฯ ตลอดระยะเวลา 5 วัน 4 คืน ที่ผ่านมา รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการ พัฒนาการอำเภอ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน เข้าร่วมพิธีฯ
จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับการอนุมัติงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” กิจกรรมที่ 1 ฝึกอบรมเพิ่มทักษะระยะสั้นการพัฒนากสิกรรมสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียงรูปแบบ โคก หนอง นา โมเดล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้การน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์สู่การปฏิบัติในรูปแบบโคก หนอง นา โมเดล ให้สามารถเป็นแกนนำขับเคลื่อนการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่การปฏิบัติในรูปแบบ โคก หนอง นา โมเดล ดำเนินการ 48 รุ่นๆ ละ 5 วัน กลุ่มเป้าหมายเข้ารับการอบรม 4,790 คน ประกอบด้วยครัวเรือนพื้นที่เรียนรู้ชุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตครัวเรือนละ 1 คน และนักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ จำนวน 898 คน ระยะเวลาดำเนินการะหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 4 มิถุนายน พ.ศ. 2564 จุดดำเนินการ 5 แห่ง ดังนี้ 1)ศูนย์พุทธธรรมพรหมวชิรญาณ ป่าดงใหญ่วังอ้อ ตำบลหัวดอน อำเภอเขื่องใน จำนวน 16 รุ่น 2)วัดป่าศรีแสงธรรม ตำบลห้วยยาง อำเภอโขงเจียม จำนวน 11 รุ่น 3)ศูนย์ฝึกอบรมวัดภูอานนท์ ตำบลนาโพธิ์กลาง อำเภอโขงเจียม จำนวน 11 รุ่น 4)ศูนย์เรียนรู้ทุนชุมชนสารภีท่าช้าง ตำบลท่าช้าง อำเภอสว่างวีระวงศ์ จำนวน 5 รุ่น และ 5)ชุมชนต้นแบบหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงบ้านดอนหมู ตำบลขามเปี้ย อำเภอตระการพืชผล จำนวน 5 รุ่น โดยการฝึกอบรมฯ รุ่นที่ 2-6 มีกำหนดการฝึกอบรมพร้อมกันทั้ง 5 จุด ระหว่างวันที่ 8-12 กุมภาพันธ์
สำหรับการฝึกอบรมรุ่นที่ 4 นี้ มีกลุ่มเป้าหมายเข้ารับการฝึกอบรมฯ จากอำเภอนาจะหลวย 9 คน และจากอำเภอสว่างวีระวงศ์ 94 คน รวมจำนวนทั้งสิ้น 105 คน ได้รับการสนับสนุนวิทยากรที่ผ่านการอบรมจากศูนย์กสิกรรมธรรมชาติและทีม SAVEUBON ร่วมกับวิทยากรจากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดและสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ โดยทุกขั้นตอนการดำเนินงานอยู่ภายใต้มาตรการ แนวทางปฏิบัติ ประกาศ และคำสั่งป้องกัน การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเคร่งครัด
โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้พบปะและมอบแนวทางในการดำเนินงานโครงการฯ ในพื้นที่ว่า “ผลผลิตจากโคก หนอง นา โมเดล จะช่วยในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานี ได้รับเกียรติสูงสุดให้เป็นจังหวัดตัวอย่างในการดำเนินการขับเคลื่อนโครงการฯ เนื่องจากมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ เยอะที่สุด และเมื่องบประมาณของทางราชการได้ลงมาถึงครัวเรือนแล้ว ก็จะทำให้ตอบสนองความต้องการที่ถูกต้องเเละตรงจุด ทั้งนี้ครัวเรือนเป้าหมายจะต้องยกระดับพื้นที่ของตนให้เป็นศูนย์เรียนรู้การน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้แก่คนในพื้นที่ได้นำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะโครงการฯ นี้จะช่วยให้ประชาชนทุกคนมีน้ำใช้ในฤดูแล้งเเละช่วยชะลอน้ำไหลหลากในฤดูฝน ซึ่งภายหลังจากการขับเคลื่อนโครงการฯ คาดว่าจะสามารถเพิ่มพื้นที่เก็บน้ำในจังหวัดอุบลราชธานีได้อีกประมาณ 19 ล้าน ลูกบาศก์เมตร และผมคาดหวังต่อไปว่าจังหวัดของเราจะมีผลผลิตจากโคก หนอง นา เพื่อทำเป็นแบรนด์ “โคก หนอง นา อุบลฯ” เช่น ผักอินทรีย์ และผลผลิตจากปศุสัตว์ โดยจังหวัดฯ จะนำนวัตกรรมเข้ามาช่วย เช่น การทำบัตรประจำตัวผู้ผ่านการอบรม “โคก หนอง นา โมเดล” จ.อุบลราชธานี เพื่อจัดทำเป็นฐานข้อมูลรายบุคคล เพราะข้อมูลนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญเพื่อให้จังหวัดฯ จะได้วางแผนให้การส่งเสริมสนับสนุนในเรื่องของการแปรรูปและการตลาด โดยมอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัดอุบลราชธานี ได้ร่วมกันขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน”
“สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคนได้ประกอบสัมมาชีพและทำมาหากินอย่างมีความสุข ตลอดจนนำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ให้เกิดต่อตัวเอง ชุมชน ในวันนี้ ขอเป็นกำลังใจผู้เข้าอบรมแล้ว และขอบคุณเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน ตลอดจนวิทยากรทุกท่านที่ได้ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการฯ จนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี” ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ ก่อนปิดการฝึกอบรมฯ
คลิกที่นี่