ผบ.นรข. ห่วงกัญชาทะลักชายแดน ลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน หลังปลดล็อกกัญชาเสรี เสนอรัฐบาลเพิ่มโทษหนัก กรณีลอบนำเข้า ล่าสุดเอาผิดได้แค่ พ.ร.บ.ศุลกากร กับ พ.ร.บ.กักพืช พันธุ์พืช พบสถิติตรวจยึดปีเดียวสูงกว่า 13 ตัน
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2565 พลเรือตรี สมบัติ จูถนอม ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เปิดเผยว่า หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง มีกองบัญชาการตั้งอยู่พื้นที่ จ.นครพนม ดูแลพื้นที่ชายแดน จากภาคเหนือสุด จ.เชียงราย ถึงอีสาน จ.อุบลราชธานี โดยเป็นพื้นที่ชายแดน มีแม่น้ำโขงกั้น กับประเทศเพื่อนบ้าน ถึงแม้จะมีมาตรากรเข้ม ยังพบว่าปัจจุบันมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดต่อเนื่อง มีการตรวจยึดบ่อย ครั้ง ยิ่งในช่วงรัฐบาลปลดล็อกกัญชาเสรี ทำให้ขบวนการค้ากัญชาข้ามชาติมีการลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาตามแนวชายแดนบ่อยขึ้น เนื่องจากบทลงโทษทางกฎหมายต่ำ ปัจจุบันสามารถเอาผิดได้เพียง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา 242 พ.ร.บ.กักพืช พ.ศ. 2507 และ พ.ร.บ.พันธุ์พืช พ.ศ. 2518 มีโทษปรับ และจำคุกไม่กี่ปี ส่งผลเป็นแรงจูงใจขบวนการค้ากัญชาข้ามชาติมีการนำเข้าจำนวนมาก เพราะคุ้มค่าเมื่อเทียบกับมูลค่าของกลางกัญชา กับความผิด โดยจากข้อมูลการจับกุมปัจจุบัน กัญชาที่นำเข้าตามแนวชายแดน ตกกิโลกรัมละประมาณ 1,000 – 2,000 บาท แต่เมื่อเข้าถึงฝั่งไทยมีราคาสูงประมาณกิโลกรัมละ 4,000 – 5,000 บาท
ฝากถึงรัฐบาลพิจารณาทบทวน เกี่ยวกับบทลงโทษสำหรับผู้กระทำผิดในการลักลอบนำเข้ากัญชาตามแนวชายแดนให้ได้รับโทษหนักสุด เพื่อลดปัญหา อย่างไรก็ตามทาง นรข. จะมีการเพิ่มมาตรการเข้มตลอดแนวชายแดน จากเหนือถึงอีสาน เพื่อสกัดกั้นปราบปรามจับกุม ไม่ให้มีการลักลอบนำเข้ายาเสพติด สิ่งผิดกฎหมายรวมถึงกัญชา อย่างต่อเนื่อง ส่วนสถิติการจับกุมรอบปีที่ผ่านมาพบว่า มีการตรวจยึดกัญชาในพื้นที่ชายแดน จ.นครพนม สูงกว่า 13 ตัน