สธ. แนะงดจัดงานเลี้ยง แม้ผ่อนปรนนั่งดื่มในร้านได้ หวั่นบรรยากาศพาไป ทำการ์ดตก เสี่ยงติดโควิด ชี้การแพร่เชื้อส่วนใหญ่มาจากคนรู้จัก
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 นพ.เฉวตสรร นามวาท ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด 19 ในประเทศไทย ว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 836 ราย รักษาหายเพิ่มขึ้น 899 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 19,618 ราย ใกล้จะถึง 2 หมื่นรายแล้ว มีอาการหนัก 16 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 11 ราย อยู่ใน กทม. 7 ราย นครปฐม สมุทรปราการ อุบลราชธานี และขอนแก่นจังหวัดละ 1 ราย สำหรับระลอกใหม่มีผู้ติดเชื้อสะสม 15,381 ราย โดยผู้ติดเชื้อมาจาก จ.สมุทรสาครมากที่สุด 72% จังหวัดอื่นๆ 21% และ กทม. 7%
- อ่าน บุกจับโจ๋ชายหญิง เปิดรร.ดัง ปาร์ตี้ยา มั่วสุมไม่สนโควิด ตร.รวบก่อนจะมี เซ็กซ์หมู่
- อ่าน เปิดแผนคลายล็อก จ่อให้นั่งกินในร้าน-ดื่มเหล้าได้ถึง 5 ทุ่ม แสดงดนตรี-แต่งดเต้นรำ
- อ่าน ปาร์ตี้มะตูม ติดโควิดเพิ่มอีก รวม 30 คนแล้ว เตือนช่วยกันรับผิดชอบสังคม
นพ.เฉวตสรร กล่าวต่อว่า ภาพรวมสถานการณ์ของประเทศไทยยังมีผู้ติดเชื้อระดับ 800 กว่ารายในรอบวัน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการค้นหาเชิงรุก โดยเฉพาะ จ.สมุทรสาคร ทำให้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เกิน 700 รายต่อเนื่องหลายวัน บางวันสูงถึง 959 ราย แต่การค้นหาเชิงรุกนำมาสู่มาตรการที่เหมาะสมเพื่อจัดที่อยู่ ดูแลสุขภาพผู้ติดเชื้อ ผู้สัมผัสและติดตามว่ามีการขยายวงระบาดเพิ่มเติมหรือไม่ สำหรับการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนหรือคลัสเตอร์ พบว่ามีความเกี่ยวข้องกับการรับประทานอาหารร่วมกัน ความเสี่ยงจากการอยู่ใกล้ชิดบนโต๊ะอาหาร มีการถอดหน้ากาก และพูดคุยทำให้เกิดการฟุ้งกระจาย
นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า อย่างกรณีคลัสเตอร์งานเลี้ยงโต๊ะแชร์ จ.มหาสารคาม ผู้สัมผัสรวม 110 ราย พบการติดเชื้อใน จ.มหาสารคาม 16 ราย เป็นการติดในครอบครัวและงานเลี้ยงโต๊ะแชร์ 10 ราย จากนั้นผู้สัมผัสที่รับเชื้อ 4 ราย นำไปแพร่ให้คนในครอบครัวตัวเองอีกทอดรวม 6 ราย จ.ราชบุรี พบติดเชื้อ 1 ราย เป็นเด็กหญิงอายุ 4 เดือน และขอนแก่น 1 ราย เป็นการติดเชื้อที่มีความเชื่อมโยงมาจากคนที่ร่วมงานเลี้ยงดังกล่าวเช่นกัน
ทั้งนี้ การแพร่กระจายเชื้อจำนวนมาก ส่วนใหญ่มาจากคนรู้จักสนิทชิดเชื้อ เนื่องจากโรคนี้แพร่เชื้อได้ตั้งแต่ยังไม่ปรากฏอาการ ทำให้ยากในการป้องกัน เพราะคิดว่ายังแข็งแรงจึงไม่ได้ป้องกันอย่างเต็มที่ ดังนั้น จึงต้องสวมหน้ากากให้บ่อยที่สุด รักษาระยะห่าง หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด
“ขณะนี้ประเทศไทยเริ่มมีมาตรการผ่อนคลายแล้ว แต่ยังต้องใส่ใจป้องกันความเสี่ยง เพื่อไม่ให้เกิดสะเก็ดไฟติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาอีก ซึ่งตอนนี้เรามีจังหวัดที่ไม่มีผู้ติดเชื้อเลย 14 จังหวัด ไม่มีการติดเชื้อใหม่ในรอบ 7 วัน 42 จังหวัด หสังว่าสัปดาห์ถัดไปจะมีมากขึ้นอีก ย้ำว่าโอกาสที่เราจะเห็นเป็นศูนย์ต้องใช้เวลา และศูนย์ไม่ใช่เป้าหมายของเรา เพราะจะต้องใช้มาตรการเข้มข้น ซึ่งกระทบต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เป้าหมายของเราคือควบคุม อาจมีผู้ติดเชื้อบ้างประปราย แต่อยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้ กิจการต่างๆ ดำเนินการต่อได้”
นพ.เฉวตสรร กล่าวต่อว่า สำหรับงานเลี้ยงต่างๆ ยังควรงดไปก่อน เพราะบรรยากาศจะพาไป กรณีที่เกิดขึ้นก็นั่งในร้านอาหารที่เปิดตรงตามกำหนด พอผ่อนคลายก็อนุญาตดื่มสุราในร้านได้ ซึ่งการดื่มอาจทำให้พฤติกรรมการป้องกันตนเองย่อหย่อนไป ขอให้ทุกคนตั้งใจ พยายามรักษาระยะห่าง หลีกเลี่ยงงานเลี้ยง รอให้สถานการณ์คลี่คลายมากกว่านี้