เราชนะ – เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เคสที่แม่ชราพาลูกชายซึ่งชราเหมือนกัน มาลงทะเบียน “เราชนะ” เพื่อรับเงิน 7,000 บาท ที่ธนาคารกรุงไทย จ.กำแพงเพชร ยังคงเป็นเคสสะเทือนและบีบหัวใจชาวเน็ต เกิดการแชร์และรีทวีตกันมากมาย
เคสดังกล่าวเกิดจากไม่มีสมาร์ทโพน แม่ชราจึงต้องพาลูกชรา เดินทางจากบ้านมายังธนาคารกรุงไทย จ.กำแพงเพชร 2 ระยะทาง 35 กิโลเมตร โดยเดินทางมา 2 วัน (15-16 กุมภาพันธ์ 2564) แต่คิวเต็ม จนกระทั่งวันที่ 3 ต้องออกจากบ้านตั้งแต่เที่ยงคืน มาถึงธนาคารเวลาตี 3 ห่อข้าวไปกิน และนอนหน้าธนาคาร เมื่อธนาคารเปิดเจ้าหน้าที่จึงให้คิวแรก ลงทะเบียนได้สำเร็จ
ชาวเน็ตรีทวีตและพูดถึงเคสดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ทำนองว่าโครงการดังกล่าวใครชนะ กันแน่
ล่าสุด เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ชาวเน็ตยังคงโพสต์ภาพหญิงชราที่นั่งรอที่ธนาคารกรุงไทย จ.อุบลฯ เพื่อลงทะเบียนเราชนะ ซึ่งเป็นภาพที่ชวนให้สะเทือนใจ
ชาวเน็ตโพสต์ภาพดังกล่าว พร้อมเขียนคำบรรยายว่า #เราชนะ ใครชนะกันแน่
ธนาคารกรุงไทย สาขาหน้ามอ อุบล
Cr. วารินชำราบบ้านเฮา อุบลราชธานี
#เราชนะ ใครชนะกันแน่
ธนาคารกรุงไทย สาขาหน้ามอ อุบล
Cr. วารินชำราบบ้านเฮา อุบลราชธานี pic.twitter.com/ghgdzz54yJ— Nnaball (@vuimxdd) February 17, 2021
นอกจากนี้ ชาวเน็ตยังได้โพสต์ภาพประชาชนที่ออกันหน้าธนาคารกรุงไทยจนล้นออกมายังถนนเพื่อรอลงทะเบียนเราชนะซึ่งแม้เป็นภาพเหตุการณ์เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันแรกที่เปิดให้ประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนลงทะเบียน รับเงิน 7,000 บาท แต่ยังคงมีคนรีทวีตและพูดถึงกันเป็นจำนวนมาก
อห คนไปติดต่อเราชนะที่กรุงไทยแถวบ้านล้นออกมานอกถนนอ่ะแกว่าวันนี้เขาจะทำธุรกรรมครบทุกคนมั้ยคนเยอะขนาดนี้ #เราชนะ pic.twitter.com/PIxm43vFiN
— 𝐊. (@Chonbpnini) February 15, 2021
ถ้าการเมืองดี!!! ผู้สูงอายุเลยนะ ต้องมาลำบากอะไรขนาดนี้เนอะ สวัสดิการภาครัฐง่ายๆแต่ได้ยากเหลือเกิน #เราชนะ pic.twitter.com/qxrx6a9Bhd
— After_wn (@AfterWn) February 15, 2021
สำหรับการลงทะเบียน “เราชนะ” ที่ธนาคารกรุงไทยเพื่อแก้ไขปัญหาคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนนั้น รัฐบาลขยายเวลาให้ลงทะเบียนจนถึงวันที่ 5 มีนาคม 2564 จากเดิมวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564