ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี เผย ดินริมตลิ่งแม่น้ำมูลในเขต อ.เมืองทรุดตัวลงกลางดึก กระทบบ้านเรือน 3 หลังไม่มีใครบาดเจ็บ โดยมีการปิดถนนชั่วคราว พร้อมรื้อถอนโครงสร้างที่เสียหาย และตั้งจุดพักพิงชั่วคราว
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 ก.ย. 2565 นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยนางสาวพิทยา ไชยสงคราม นายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี และเทศบาลนครอุบลราชธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณถนนเลียบแม่น้ำมูล ชุมชนบุ่งกาแซว อ.เมืองอุบลราชธานี กรณีดินริมตลิ่งทรุดตัวลง เมื่อช่วงเวลา 01.00 น. ที่ผ่านมา พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน
นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ช่วงกลางดึกที่ผ่านมาได้เกิดเหตุดินสไลด์ลงที่บริเวณริมแม่น้ำมูล บ้านเรือนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำมูลมีประมาณ 3 หลังคาเรือน มีผู้อาศัย 4-5 คน เบื้องต้นไม่มีใครได้รับอันตรายดำเนินการช่วยเหลือ สิ่งแรกจะมีการเคลื่อนย้าย และรื้อถอนสิ่งที่พังลงเนื่องจากดินสไลด์ ปิดการจราจรเพื่อให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยในการสัญจรไปมา
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวต่อว่า ในการช่วยเหลือเบื้องต้นเรื่องของที่อยู่อาศัย ทางเทศบาลนครอุบลราชธานี จะตั้งเต็นท์เป็นจุดพักพิงให้ เพื่อที่จะตรวจสอบให้แน่ใจว่าหลังจากดินสไลด์แล้วสภาพพื้นดินที่ยังเหลืออยู่จะมีความปลอดภัยหรือไม่ หากยังไม่ปลอดภัยจำเป็นจะต้องอยู่ที่ศูนย์พักพิงก่อน ซึ่งไม่ห่างจากบริเวณที่พักอาศัย ส่วนการซ่อมแซมในระยะยาวจะต้องมีการสำรวจ และตรวจสอบ ออกแบบให้ถนนสายนี้มีความมั่นคงแข็งแรง สามารถรับน้ำหนักในกรณีที่มีฝนตกสะสมจำนวนมากต่อไปในอนาคต
นายพงศ์รัตน์ กล่าวอีกว่า ส่วนสาเหตุของการเกิดดินทรุดนั้นจะได้มีการตรวจสอบ หากถนนที่เป็นคันกั้นน้ำมีระดับน้ำที่เท่ากันจะทำให้ประคองตัวได้ แต่ถ้าระดับน้ำฝั่งใดฝั่งหนึ่งลดลงอย่างรวดเร็วก็จะทำให้ดินสไลด์ตัวลงอย่างรวดเร็ว ส่วนที่ชาวบ้านเป็นกังวลว่าเกิดจากการสูบน้ำออกหรือไม่ จะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบ ประเมินสถานการณ์ และแก้ไขต่อ
ขณะที่ระดับน้ำแม่น้ำมูลที่สถานีวัดน้ำ M.7 สะพานเสรีประชาธิปไตย เทศบาลนครอุบลราชธานี ระดับน้ำวันนี้ วัดได้ 112.03 ม.รทก. หรือระดับ 7.03 เมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.07 เมตร สูงกว่าตลิ่งฝั่ง อ.วารินชำราบ 3 ซม. อัตราการไหลอยู่ที่ 2,318.00 ลบ.ม./วินาที
ทั้งนี้ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 13 อุบลราชธานี ติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล ขนาด 12 นิ้ว 2 เครื่อง สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 11 ขนาด 30 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง และโครงการชลประทานอุบลราชธานี ขนาด 12 นิ้ว 3 เครื่อง รวม 6 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเกตุแก้วและชุมชนท่าบังมั่ง ในเขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ อ.วารินชำราบ
สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 11 ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 12 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง บริเวณประตูระบายน้ำชุมชนท่ากอไผ่ เพื่อเร่งการระบายน้ำออกจากที่ลุ่มต่ำ ในชุมชนท่ากอไผ่ และหาดสวนสุข เทศบาลเมืองวารินชำราบ ให้เร็วขึ้น
ส่วน กรมชลประทานได้ทำการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติมอีก 40 เครื่อง รวมจำนวน 140 เครื่อง และติดตั้งเครื่องสูบน้ำแรงดันสูง (Hydro Flow) ที่ บริเวณแก่งสะพือ อ.พิบูลมังสาหาร พร้อมทำการเดินเครื่องแล้ว 2 เครื่อง เพื่อช่วยเร่งผลักดันและระบายน้ำแม่น้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขงให้เร็วยิ่งขึ้น.