เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม นายสมเพชร สร้อยสระคู รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยนายสมเจตน์ เต็งมงคล ปลัดจังหวัดอุบลราชธานี นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนชาวจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกิจกรรมรณรงค์สร้างความตระหนักรู้เนื่องในโอกาสวันดินโลก และกิจกรรมการทำบุญตักบาตรถนนสายวัฒนธรรม นำสู่ “ดินดี อาหารดี สุขภาพดี ชีวีมีสุข” ซึ่งเป็นกิจกรรมวันสุดท้ายของสัปดาห์แห่งการสร้างความตระหนักรู้ หรือ Awareness Week ในระหว่างวันที่ 2 – 8 ธ.ค. 65 โดยได้รับความเมตตาจากพระราชธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดมณีวนารามและเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี พระครูโสภณอาภากร เจ้าอาวาสวัดบ้านแขม เจ้าคณะอำเภอเขื่องใน พระพิพัฒน์วชิโรภาส ผู้อำนวยการศูนย์พุทธธรรมสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ป่าดงใหญ่วังอ้อ และที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยคณะสงฆ์ เข้าร่วมกิจกรรม ณ ศูนย์พุทธธรรมสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ป่าดงใหญ่วังอ้อ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี
พระราชธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดมณีวนาราม และเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวาระที่เป็นมงคลที่ได้มาร่วมกันแสดงเจตจำนงสุจริตในการประกาศเจตนารมณ์ที่จะดูแลพัฒนาแผ่นดิน ดังที่ท่านทั้งหลายได้รับชมในวิดีทัศน์ ซึ่งได้จัดทำขึ้นแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของผืนแผ่นดิน การประกาศเจตานรมณ์นี้เป็นการแสดงออกซึ่งความกตัญญู เชิดชูผืนแผ่นดิน เป็นการทำให้ถิ่นที่อยู่อาศัยในโลกให้มีความสมบูรณ์เราต่างรู้ว่า “ทุกสิ่งทุกอย่าง พืชพันธุ์ ธัญญาหาร ล้วนแล้วแต่เกิดมาจากดิน” ด้วยความที่เราอยู่ในแผ่นดิน มีความกตัญญู คือ รู้คุณและตอบแทนแผ่นดิน การแสดงออกซึ่งความกตัญญูนี้สามารถทำได้หลายวิธี การที่พวกเรามาในวันนี้ก็เป็นวิธีหนึ่งซึ่งจะเป็นสัญญลักษณ์ เป็นแนวทางในการแสดงออกถึงความกตัญญู ดังที่คนโบราณกล่าวไว้ว่า “มีข้าวกิน มีดินอยู่ มีผู้ดูแล นั้นคือ ความสุขของชีวิต พืชพันธุ์ธัญญาหาร ข้าวปลาอุดมสมบูรณ์ก็เพราะผืนแผ่นดิน” นอกจากนี้ ดินยังเป็นที่อยู่ของพวกเราอีกด้วย การมาร่วมแสดงออกในวันนี้จึงเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวที เชิดชูแผ่นดิน เชิดชูพระเกียรติยศของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์ ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้เป็นมหาราช ผู้เป็นที่ได้รับการยกย่องทั่วโลกเป็น “พลังของแผ่นดิน” จนทำให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีเป็น วันดินโลก ทำให้เราคนไทยกล้าที่จะประกาศไปสู่ประชาคมโลกว่า แผ่นดินไทยเป็นแผ่นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว แต่การที่จะทำให้ความอุดมสมบูรณ์เหล่านี้คงอยู่เราจำเป็นจะต้องมีการพัฒนา และมีผู้ดูแล ซึ่งพวกเราจะต้องเป็นผู้ดูแลเป็นผู้สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ดิน คืนความสมดุลให้แก่ธรรมชาติ เสริมสร้างระบบนิเวศ และความหลากหลายทางชีวภาพที่ยั่งยืน สำหรับบรรยากาศในวันนี้เป็นพิธีแห่งความสมัครสมานสามัคคี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ที่เราได้ร่วมแรงร่วมใจกันทำดีต่อผืนแผ่นดิน สำนึกในคุณค่าของดิน ขอให้การจัดกิจกรรมครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ ขอให้ทุกดวงใจได้รำลึกถึงพระมหากษัตริย์ผู้เป็นพลังของแผ่นดินดังที่โลกได้ยกย่องให้ทุกปีเป็นวันดินโลก ขอเจริญพร
นายสมเพชร กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย ได้ให้จังหวัดอุบลราชธานีเป็นพื้นที่นำร่องการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้เนื่องในวันดินโลก ปี 2565 (World Soil Day 2022) ซึ่งได้มีการจัดกิจกรรมมาตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. 65 ที่ผ่านจนถึงวันนี้ โดย เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2565 ณ วัดป่าศรีแสงธรรม อำเภอโขงเจียม วันที่ 3 ธันวาคม 2565 ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน อำเภอเมืองอุบลราชธานี วันที่ 4 ธันวาคม 2565 ณ บ้านหนองสะโน อำเภอทุ่งศรีอุดม วันที่ 5 ธันวาคม 2565 ณ บ้านโนนมะเขือ อำเภอกุดข้าวปุ้น วันที่ 6 ธันวาคม 2565 ณ วัดหนองคู อำเภอน้ำยืน วันที่ 7 ธันวาคม 2565 ณ อำเภอพิบูลมังสาหาร และวันที่ 8 ธันวาคม 2565 ณ ศูนย์พุทธธรรมสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ป่าดงใหญ่วังอ้อ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งสามารรับชมกิจกรรมย้อนหลังได้ที่ Facebook กระทรวงมหาดไทย PR หรือที่ลิงค์ https://fb.watch/hhBs0vyXWo/ โดยบรรยากาศในงานกิจกรรมการรณรงค์ในวันนี้เต็มไปด้วยความอบอุ่น ความรักใคร่สามัคคี และเจตนาที่จะพลิกฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ดิน ซึ่งภายหลังจากการจัดงานในวันนี้กระทรวงมหาดไทยจะได้ขยายผลการสร้างการรับรู้ปลุกเร้าให้พี่น้องประชาชนคนไทยมาร่วมแสดงพลังในการอนุรักษ์ และพัฒนาทรัพยากรดิน ด้วยแนวคิด คืนดินดีให้ผืนแผ่นดิน สร้างความสมดุลทางธรรมชาติ และระบบนิเวศที่สมดุล ทำให้แผ่นดินไทยเป็นแผ่นดินทอง
โอกาสนี้ พระพิพัฒน์วชิโรภาส ผู้อำนวยการศูนย์พุทธธรรมสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ป่าดงใหญ่วังอ้อ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสมเพชร สร้อยสระคู รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้เกียรติเป็นประธานนำขบวนเดินรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ในคุณค่าของดิน เนื่องโอกาสสัปดาห์แห่งการรับรู้งานวันดินโลก ประจำปี 2565 ภายใต้แนวคิด “อาหารก่อกำเนิดเกิดจากดิน หรือ Soils, where food begins” เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ในเรื่อง ดิน ให้แก่ประชาชน และภาคีเครือข่าย ให้เกิดความตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรดิน ตลอดจนสร้างจิตสำนึกอนุรักษ์ทรัพยากรดินอย่างยั่งยืน รวมถึงนิทรรศการวันดินโลกและกิจกรรมการเสวนา ภายใต้หัวข้อ “Great food from good soil for better life awareness week” หรือ ดินดี อาหารดี สุขภาพดี ชีวีมีสุข พร้อมเปิดกิจกรรมวันดินโลก ประจำปี 2565 พระเทพวราจารย์ เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เจ้าอาวาสวัดมณีวนาราม เมตตาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีประกาศเจตนารมณ์พร้อมกันกับเครือข่ายพลัง บวร 25 อำเภอ 601 ชุมชน ในจังหวัดอุบลราชธานี โดยมีนายสมเจตน์ เต็งมงคล ปลัดจังหวัดอุบลราชธานี ในนามผู้จัดกิจกรรมวันดินโลกประจำปี 2565 ของกระทรวงมหาดไทย ภายใต้หัวข้อ “Great food from good soil for better life awareness week” หรือ ดินดี อาหารดี สุขภาพดี ชีวีมีสุข” กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของโครงการ ในการนี้ได้รับความเมตตาอนุเคราะห์จากพระปัญญาวชิรโมลี ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม มาร่วมกิจกรรม และมีนายสุริยา บุตรจินดา หัวหน้าสำนักงานจังหวัดอุบลราชธานี นายอำเภอทั้ง 25 อำเภอ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ภาคีเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ กลุ่ม SAVEUBON และประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมฯ
นายสมเพชร กล่าวอีกว่า ในปัจจุบันทั่วทั้งโลกได้ตระหนักถึงคุณค่าในทรัพยกรดิน ซึ่งเป็นสิ่งตั้งต้นที่ทำให้มนุษย์ของเราสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ เป็นแหล่งก่อกำเนิดปัจจัย ไม่เพียงแต่อาหาร แต่ดินเป็นทั้งแหล่งกำเนิดที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่มห่ม พืชสมุนไพรหรือยารักษาโรค พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริไว้ให้คนไทย กว่า 4,000 โครงการ ซึ่งนับเป็นโชคดีของประชาชนคนไทยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปณิธานในการสืบสาน รักษา และต่อยอด และพระองค์ทรงมีพระราโชบายที่ชัดเจน ที่จะทำให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานพระราชปณิธานภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งในฐานะตัวแทนพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดอุบลราชธานี และประชาชนชาวไทยทุกท่าน ขอเป็นหนึ่งในผู้แสดงเจตนารมณ์ที่มีความตั้งอย่างแน่วแน่ที่จะสนองแนวพระราชปณิธาน เพื่อทำให้คนในชุมชนจุดเล็ก ๆ มีความมั่นคงทางด้านอาหาร มีอาชีพ มีรายได้ มีความตระหนักในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และมีความสุข เพื่อร่วมอนุรักษ์ความอุดมสมบูรณ์ของดินให้อยู่คู่ผืนแผ่นดินไทย ทดแทนคุณแผ่นดินเกิดของเราตราบชั่วลูกหลานของเรา และประชาคมโลก