ภูมิภาค
คาถาแก้จน ขยัน ประหยัด อดทน เพาะเห็ดขายกำไรดี!
วันพุธ ที่ 03 มีนาคม พ.ศ. 2564, 13.41 น.
คลิกที่นี่
ชาว กรุงเทพมหานคร ทำการเกษตร ตั้งแต่เล็กจนวัยหนุ่ม นานวัน เกิดความเบื่อหน่าย สังคมเมืองหลวง ที่เข้าใจว่า เป็นเมืองสวรรค์ กระทั่ง พบรัก สาวงาม ต่างจังหวัด แต่งงาน เป็น สามี – ภรรยากัน จากนั้นหันหลังให้กับเมืองหลวง มุ่งหน้ากลับอีสานบ้านเกิดภรรยา พลิกที่นาทำเกษตร ทว่า พบปัญหา ที่ดินไม่เหมาะสม ขณะเดียวกัน อ.อำนาจเจริญ ยกฐานะขึ้นเป็น จังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งเป็นจังหวัดน้องใหม่ หนทางค้าขาย ลู่ทางแจ่มใส เชื่อว่า เศรษฐกิจดีแน่นอน จึงย้ายไปอยู่จังหวัดอำนาจเจริญ รวบรวมเงินได้ก้อนหนึ่ง ซื้อที่ดินติดถนนชยางกูร สายหลัก(อำนาจเจริญ – อุบลราชธานี) ทำเป็น โรงเพาะเห็ด เต็มรูป แบบ จำหน่าย เห็ดหูหนู ทั่วภาคอีสาน สร้างรายได้เป็นอย่างดี
นายวรโชติ สุรวิชัย อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 207 หมู่ที่ 2 ต.ไก่คำ อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ เล่าความหลังให้ฟังว่า เดิมเป็นชาวกรุงเทพมหานคร ซึ่งทุกคนเชื่อว่า เป็นเมืองสวรรค์ เมืองศิวิไลท์ สมัย กว่า 40 ปี ที่ผ่านมา ยังไม่เจริญมากนัก ยังคงมีกลิ่นท้องไร่ท้องนาหลงเหลืออยู่ ซึ่งประกอบอาชีพทำนาตั้งแต่ พ่อ แม่ จนกระทั่ง มีการปลูกบ้านเรือน หมู่บ้านจัดสรร ผุดขึ้นราวดอกเห็ด พื้นที่ทำนาปลูกข้าว เริ่มหดหาย ลดน้อยลง กลายเป็นสังคมเมืองใหญ่ ความเจริญเข้ามาแทนที่ คนในสังคม ทำมาหากินตัวเป็นเกลียว ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ความเอื้ออาทร มีน้ำใจต่อกัน จางหาย ความเห็นแก่ตัวเข้ามาแทนที่ เกิดความเบื่อหน่าย คงอยู่ร่วมสังคมไม่ได้แน่ ประกอบกับ พบ สาวอีสาน ใจดี น้ำใจงาม จึงตกลงแต่งงานกัน ซึ่งเป็น ภรรยา อยู่ครองรักกันมาจนปัจจุบันนี้
ต่อมา จึงย้ายกลับบ้านเกิดภรรยา คือ อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี พลิกดินที่นา ทำการเกษตร กว่า 10 ปี เป็นเพราะที่นาไม่เหมาะสม และ ทราบว่า อ.อำนาจเจริญ ยกฐานะเป็นจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นจังหวัดใหม่ หนทางค้าขาย แจ่มใส เศรษฐกิจดี แน่นอน จึงรวบรวมเงินได้ก้อนหนึ่ง ซื้อที่ดิน จำนวน 15 ไร่ ติดถนนสายหลักชยางกูร(อำนาจเจริญ – อุบลราชธานี) พื้นที่ ต.ไก่คำ อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ ทำเป็นโรงเรือนเพาะเห็ดหูหนู จำหน่ายทั่วภาคอีสานแก่ผู้สนใจ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 กระทั่งปัจจุบัน สร้างรายได้ดีมาก
ส่วนวิธีเพาะเห็ดหูหนู นายวรโชติ สุรวิชัย บอกพอเข้าใจว่า จากการไปอบรม ที่กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตร กรุงเทพมหานคร หลายวัน จึงมีความรู้ ความเข้าใจดี เรื่องการเพาะเห็นหูหนู และสามารถเพาะเห็นหูหนู จำหน่ายตั้งแต่ปี 47 จนถึงวันนี้ เป็นเวลา 16 ปี ซึ่งเริ่มแรก ให้นำขี้เลื่อย ซึ่งผสมกับ อาหารเสริม ในอัตราส่วนที่พอเหมาะ ต่อมา บรรจุลงในถุง เสร็จแล้ว นำถุงใส่เครื่องนึ่ง เพื่อฆ่าเชื้อ ใช้เวลา 3.30 – 4.00 ชั่วโมง เปิดฝาครอบออกทิ้งไว้ให้เย็น ต่อมา นำมาหยอดเชื้อเห็ด ที่ถังบ่ม ที่วางชั้นพักในโรงเรือน หากเป็นเห็ดนางฟ้า ใช้เวลา 1 เดือน ส่วนเห็ดหูหนู ใช้เวลา 2 เดือน จากนั้น นำไปแขวนในโรงเรือน โดยการเปิดดอก กรีดถุง ให้เห็ดออกดอก ภายใน 1 สัปดาห์ เห็ดก็จะผลิดอก และทยอยเก็บขายได้ ซึ่งราคาซื้อขาย อ้างอิงกับราคาตลาดในกรุงเทพฯเป็นหลัก ซึ่งเห็ดหูหนู 1 กิโลกรัม จำหน่าย ราคา 50 – 70 บาท
นายวรโชติ สุรวิชัย คนเมืองหลวง มาเอาดีการเพาะเห็ดขายที่ภาคอีสาน กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนพร้อมภรรยา สู้ฝ่าฟันอุปสรรคชนิดที่ว่า ล้มลุกคลุกคลาน มาหลายสิบปี กระทั่งทุกวันนี้ ความเป็นอยู่ดีขึ้นตามลำดับ อันนำไปสู่รางวัลแห่งความสำเร็จ โดย ส่งบุตรชายเรียนสำเร็จระดับปริญญาโท และรับราชการทหารอากาศ ส่วนบุตรสาว ก็สำเร็จระดับปริญญาตรี และไม่ให้ไปทำงานที่ไหน โดยให้สานต่องานที่บ้าน
และมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จ ก็คือ ไม่หมิ่นเงินน้อย ไม่คอยวาสนา ขยัน ประหยัด อดทน คือ คาถา แก้จนนั่นเอง.
คลิกที่นี่