เผยแพร่:
ปรับปรุง:
อุบลราชธานี – ตำรวจสืบสวนอำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี โชว์ฝีมือตามรวบหนุ่มชัยภูมิบุกเดี่ยวชิงเงินร้านมินิมาร์ทกลางดึก กล้องวงจรปิดจับภาพได้ชัด ตำรวจใช้เป็นเบาะแสตามรวบได้ทันควันหลังก่อเหตุเพียง 1 ชั่วโมง สารภาพหาเงินเป็นค่าเดินทางกลับบ้าน
ดึกวานนี้ (13 มี.ค.) ร.ต.อ.ณรงค์ เกตุหอม รองสารวัตรสอบสวน สภ.วารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี รับแจ้งมีเหตุชิงทรัพย์ร้านมินิมาร์ทในปั๊มน้ามัน PT ตั้งอยู่ริมถนนอุบล-ศรีสะเกษ ตำบลหนองกินเพล อำเภอวารินชำราบ อุบลราชธานี จึงออกไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ชาญชัย อินนรา ผู้กำกับสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี, พ.ต.ท.บวรศักดิ์ คำรังษี รองผู้กำกับการสืบสวนสถานีตำรวจภูธรวารินชำราบ, พ.ต.ท.ทศพร เส็งเรียบ รองผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี
ที่เกิดเหตุเป็นร้านแม็กซ์มาร์ท ตั้งอยู่ภายในปั๊มน้ำมัน PT มี น.ส.กนกวรรณ คงงาม อายุ 27 ปี พนักงานเก็บเงินยืนรอเจ้าหน้าที่ด้วยอาการตกใจ สอบถามเล่าว่าช่วงเกิดเหตุตนกำลังคิดเงินอยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์ มีคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อยีนส์แขนยาว กางเกงยีนส์สีดำ สวมหมวกกันน็อกสีดำ สวมถุงมือสีดำ รองเท้าแตะ ขับขี่จักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเข้ามาจอดที่หน้าร้าน พร้อมยื่นเศษกระดาษลังเขียนข้อความว่า “มีปืน บ่อยากตายเอาเงินมาให้หมดทุกบาท ห้ามตกใจ ทำตามที่บอก บ่ยิง” หลังจากที่อ่านเสร็จคนร้ายได้ดึงไขควงออกมาขู่ ก่อนเดินเข้ามาเปิดเครื่องคิดเงิน แต่เปิดไม่ได้ จึงหยิบเอาธนบัตรย่อยที่วางอยู่ด้านนอกไป 1,300 บาท เหรียญอีกจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่าประมาณ 1,500 บาท ก่อนจะหลบหนีกลับไปขึ้นจักรยานยนต์ขี่หลบหนีมุ่งหน้าไปทางบ้านหนองกินเพล
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ และตรวจสอบกล้องตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีที่ติดตั้งไว้ในสถานีตำรวจตามโครงการเซฟตี้โซนของกองบัญชาการตำรวจภูธร 3 พบผู้ต้องสงสัยชื่อนายทัชนัย นาคา อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดชัยภูมิ ขับขี่จักรยานยนต์มาตามเส้นทางในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ
พ.ต.ท.บวรศักดิ์ คำรังษี รองผู้กำกับการสืบสวนสถานีตำรวจภูธรวารินชำราบ จึงนำกำลังดักซุ่มริมถนนหน้าบ้านเลขที่ 117 บ้านหนองกินเพลใต้ หมู่ 8 ตำบลหนองกินเพล ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากปั๊มน้ำมันเกิดเหตุ ต่อมาเวลาประมาณ 01.30 น.วันที่ 14 มี.ค นายทัชนัยได้ขี่จักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 กท 3835 อุบลราชธานี ลักษณะตรงกับที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเข้ามาที่บ้าน
เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น พบธนบัตรฉบับละ 20 บาท และเศษเหรียญเงินจำนวนมากอยู่ในกระเป๋าเงินของนายทัชนัย เมื่อนายทัชนัยเห็นเจ้าหน้าที่รู้ทันและตามมาจับกุมได้ถึงกับหน้าถอดสี ก่อนยอมรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ชิงทรัพย์ร้านมินิมาร์ทดังกล่าวจริง โดยเหตุที่บุกเดี่ยวชิงเงินครั้งนี้สืบเนื่องจากเคยเป็นอดีตพนักงานของมินิมาร์ทที่เกิดเหตุมาก่อน แต่ทำงานได้เพียง 5 วันก็ลาออก เนื่องจากมีปัญหากับหัวหน้างานเรื่องการเงิน และที่ต้องมาชิงทรัพย์ก็เพราะตนเองตกงานมาเป็นปีแล้ว ครอบครัวของภรรยาก็ไม่ให้อยู่ด้วย ไม่มีเงินใช้ จึงก่อเหตุหาเงินใช้เดินทางกลับบ้านที่ชัยภูมิ
ขณะที่ พ.ต.ท.บวรศักดิ์กล่าวถึงเหตุที่สามารถจับคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว สืบเนื่องจากการที่ พล.ต.ท.ภานุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้ให้พื้นที่จัดทำโครงการเซฟตี้โซนในพื้นที่เสี่ยง โดยที่ผ่านมาปั๊มน้ำมันแห่งนี้เคยถูกชิงทรัพย์มาแล้วครั้งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แนะนำให้ติดกล้องวงจรปิดในจุดเสี่ยงเชื่อมโยงกับสถานีเพื่อใช้ตรวจสอบความเคลื่อนไหวคนร้าย จนนำมาสู่การจับคนร้ายได้ได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น