เผยแพร่:
ปรับปรุง:
ลำปาง – เปิดใจสาวลำปางเมียทหารปืนใหญ่อุบลฯ หารือทนายทวงสิทธิ์ภรรยา หลังแต่งงานจดทะเบียนกันมา 10 ปี มีลูก 2 สามีหนีไปแต่งงานใหม่-คลอดลูกคนเล็กนอน รพ.นับเดือนไม่เคยดูดำดูดี พอหอบลูกกลับบ้านเกิดยังโดนเมียน้อยตามเยาะเย้ยอีก
วันนี้ (24 ก.พ. 64) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับนางสาวพิมพ์ ซึ่งเป็นภรรยาของทหารยศจ่าสิบเอก ทหารสังกัดกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 6 หรือ ป.พัน.6 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ที่ต้องหอบลูก ถือทะเบียนสมรส พร้อมสถานะเมียหลวง กลับมาอยู่ที่บ้านกับพ่อแม่ในพื้นที่ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง และกำลังหารือกับทนายเมียหลวงเพื่อทวงสิทธิตามกฎหมาย
นางสาวพิมพ์เปิดเผยว่า แต่งงานจดทะเบียนสมรสกับสามีทหารตั้งแต่ปี 2554 หรือเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว จนมีลูกชายด้วยกัน 2 คน คนโต 8 ขวบ คนเล็ก 6 เดือน แต่ล่าสุดมีคนรู้จักได้ส่งรูปสามีของตนไปเข้าร่วมพิธีแต่งงานกับหญิงอื่นในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนี้คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นประมาณปีกว่าแล้ว แต่ตนไม่ทราบเรื่องเลย พอรู้ก็พยายามสอบถามสามีตนแต่เขาก็ไม่เคยยอมรับ จนมาจำนนต่อหลักฐานคือภาพถ่าย จึงยอมรับว่าแอบคบกัน ซึ่งตนบอกให้เลิกกยุ่งกับหญิงคนนั้น สามีก็บอกว่าขอเวลาหน่อย
แต่หลังจากนั้นฝ่ายหญิงที่เป็นภรรยาน้อยยังเข้ามาระรานตนตลอด แถมยังพยายามโชว์รูปที่อยู่ร่วมกับสามีตนลงในเฟซบุ๊กและแท็กเพื่อนในเฟซบุ๊กของตนเพื่อให้เห็นว่าทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน นอกจากนี้ยังส่งรูปคู่มาให้ตนเองทางกล่องข้อความด้วย
“ยอมรับว่าก็สุดแสนจะทนแล้ว เพราะหญิงสาวคนดังกล่าวนอกจากจะเยาะเย้ยทาง Facebook ทางแชตข้อความแล้วยังไม่พอ ยังเคยบุกมาบ้านพักในค่ายทหาร ป.พัน.6 ที่อุบลฯ ขณะที่ดิฉันใช้ชีวิตอยู่กับสามี โดยผู้หญิงคนนี้เข้ามาทะเลาะกับสามี และหลังจากนั้นก็ชวนสามีดิฉันขับรถไปข้างนอกหายไปด้วยกันก็หลายครั้งแล้ว”
ส่วนตัวเองหลังจากคลอดลูกคนที่สอง พ่อกับแม่ก็รับกลับมาอยู่ที่บ้านที่ลำปาง เนื่องจากสามีไม่ไปดูแลที่โรงพยาบาลฯ รวมทั้งยังไม่เดินทางไปเซ็นรับรองบุตรด้วย ซึ่งเมื่อตนพาลูกกลับมาอยู่ลำปางได้พาลูกไปฉีดวัคซีน ทางโรงพยาบาลปฏิเสธเพราะสามีตนยังไม่มีการรับรองบุตร ไม่สามารถเบิกสิทธิการรักษาพยาบาลได้ ถึงแม้จะจดทะเบียนสมรสแล้ว ถ้าไม่รับรองบุตรก็จะไม่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลหรือค่าต่างๆ ได้ ทำให้ตนและลูกเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
นางสาวพิมพ์เล่าอีกว่า ต่อมาตนก็เดินทางไปที่ค่ายทหาร ป.พัน.6 วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เพื่อติดต่อหน่วยงานสวัสดิการ ขอหนังสือรับรองสามีตน เพื่อจะให้รับรองบุตรและใช้สิทธิค่ารักษาพยาบาลบุตร แต่ก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ภายในหน่วยงานยังหัวเราะ และไม่สนใจเรื่องที่ตนเองเข้าไปขอหนังสือรับรองบุตรและรับรองการรักษาสิทธิเลย
ล่าสุดจึงตัดสินใจปรึกษากับทนายสิทธิ์ หรือทนายเมียหลวง ซึ่งทางทนายสิทธิ์รับปากว่าจะมาช่วยเหลือดูแลเรื่องต่างๆ และอาจจะมีการฟ้องร้องหรืออาจจะมีการดำเนินการถึงหน่วยงานต้นสังกัดเอาผิดทางด้านวินัยด้วย เพราะการเจรจาอย่างไรก็คงไม่มีประโยชน์ใดๆ แล้ว
ทางด้านนายมงคล บิดานางสาวพิมพ์ ได้เล่าเหตุการณ์ว่าช่วงที่เดินทางไปเยี่ยมลูกสาวคลอดที่โรงพยาบาลที่อุบลราชธานี ตอนนั้นหมอบอกว่าลูกสาวเกิดอาการครรภ์เป็นพิษ ถือว่าอาการหนักประเมินไว้ 50:50 ต้องให้พ่อให้แม่ของพิมพ์มาเซ็นรับรองในการรักษา เพราะว่าอาการน่าเป็นห่วงมาก ซึ่งช่วงที่นอนอยู่โรงพยาบาลฯ นานนับเดือนสามีของลูกก็ไม่เคยมาเยี่ยมหรือมาสนใจเลย ต้องติดต่อทางพ่อทางแม่ให้เดินทางจากลำปางไปเฝ้าไข้ลูก
นอกจากนี้ ขณะที่รอลูกคลอด อยู่ดีๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งตนก็ไม่รู้จัก โทรศัพท์เข้ามาหาและถามตนว่า..เป็นพ่อพิมพ์หรือเปล่า ถ้าเป็นพ่อพิมพ์ให้พาลูกสาวกลับบ้านที่ลำปางไปเลย..ซึ่งตนก็ตกใจมากไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เอาเบอร์โทรศัพท์ตนมาจากไหน ถึงได้โทร.มาด่ามาต่อว่า และยังกล้าโทร.มาระรานฝ่ายภรรยาหลวงได้ขนาดนี้