17 กุมภาพันธ์ 2564
| โดย บุษกร ภู่แส
6
แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2564 ยังมีความท้าทายสูงสำหรับผู้ประกอบการไม่ต่างจากปี 2563 จากวิกฤติโควิด-19 และเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในช่วงรอยต่อสิ้นปีที่ผ่านมากระทั่งเวลานี้! พฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยที่เปลี่ยนจากคอนโดมาเป็นแนวราบ
สมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยจากแนวสูง (คอนโดมิเนียม) มาเป็นแนวราบมากขึ้น ปัจจัยดังกล่าวทำให้บริษัทได้ปรับแผนธุรกิจปี 2564 เพื่อให้สอดคล้องสถานการณ์ตลาด โดยมุ่งพัฒนาโครงการแนวราบ เตรียมเปิดตัว 7 โครงการใหม่ จำนวน 1,000 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท ใน 4 โซนหลักเหนือ ใต้ ตะวันตก ตะวันออก ของกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพเหมาะกับการอยู่อาศัย
การมุ่งขยายตลาดในเซ็กเมนต์แนวราบ โฟกัส “ทาวน์เฮ้าส์” ระดับราคา 2-3 ล้านบาท จำนวน 700-800 ยูนิต รองรับกำลังซื้อลูกค้าที่ชะลอตัวจากภาวะเศรษฐกิจ นอกจากนั้นจะเป็นบ้านแฝด ระดับราคา 3-4 ล้านบาท และบ้านเดี่ยวระดับราคา 4-5 ล้านบาทต่อยูนิต รวมทั้งนำเทคโนโลยีการก่อสร้างทันสมัยเข้ามาใช้ในการควบคุมค่าใช้จ่ายเพื่อให้สามารถตั้งราคาสินค้าให้เหมาะกับกำลังซื้อของลูกค้าได้มากที่สุด
สำหรับการพัฒนาโครงการอยู่ภายใต้แบรนด์ “บ้านฟ้ากรีนเนอร์รี่” และ “บ้านฟ้ากรีนพาร์ค” เป็นเรือธง! รักษาฐานลูกค้าเดิม และรุกขยายฐานลูกค้าใหม่ เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดควบคู่การพัฒนาคุณภาพบ้านด้วยระบบเทคโนโลยีก่อสร้างทันสมัยให้สอดคล้องกับความต้องการที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกสบายและความปลอดภัย สามารถสื่อสารกลุ่มลูกค้าในทุกช่องทางการติดต่อให้เป็นหนึ่งเดียว (Omni Channel) ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ช่วยทำให้เก็บข้อมูลผู้บริโภคแต่ละคนได้ครบถ้วน อาทิ แพลตฟอร์มดิจิทัลการชมบ้าน 360 องศาแบบเรียลไทม์
“เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง พัฒนาโปรดักท์นวัตกรรมบ้านตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัย ด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตของลูกค้าทุกช่วงวัย ควบคู่การพัฒนาต่อยอดสินค้าด้วยนวัตกรรมผ่าน สมาร์ทอีโค สมาร์ทแคร์ สร้างความแตกต่างและฟังก์ชั่นที่ตอบรับครอบครัววิถีใหม่ เพิ่มทางเลือกรูปแบบการใช้ชีวิตไลฟ์สไตล์ ที่หลากหลาย ด้วยการผสานเทคโนโลยีที่ทำให้ชีวิตในบ้านสะดวกสบายมากขึ้น และการดูแลสุขภาพของสมาชิกในครอบครัวยุคนิวนอร์มอล”
แผนเชิงรุกผลักดันรายได้สู่เป้าหมาย 2,000 ล้านบาทในปีนี้ เติบโตจากปี 2563 มีรายได้ 1,600 ล้านบาท ล่าสุดบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือมูลค่ารวม 500-600 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ภายในปี 2564 ทั้งหมด ขณะเดียวกัน มีสินค้าพร้อมขาย (Inventory) มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท จาก 10 โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ส่วนเป้าหมายยอดขาย (Presale) ปีนี้ตั้งไว้ที่ 3,500 ล้านบาท ใกล้เคียงปีก่อนที่ทำได้ 3,400-3,500 ล้านบาท
ดัน‘ศิริอรุณแคร์’ปั้นพอร์ตรายได้ประจำ
แนวทางการพัฒนาและขยายธุรกิจของ “เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง” ยังให้ความสำคัญกับการมีพันธมิตรธุรกิจ! เข้ามาเสริมทัพช่วยพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ทั้งสินค้า การบริการรูปแบบใหม่ “ต่อยอด” ธุรกิจหลัก ไม่ว่าจะด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีเกี่ยวกับบ้าน พันธมิตรการเงิน พันธมิตรธุรกิจการบริการอสังหาฯ
ล่าสุดแตกไลน์ธุรกิจใหม่ภายใต้โปรเจคร่วมทุนมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท! กับกลุ่มแพทย์และพยาบาลในจังหวัดอุบลราชธานี จัดตั้ง บริษัท ศิริอรุณเวลเนส จำกัด เปิดให้บริการ “ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพและดูแลผู้สูงอายุ ศิริอรุณแคร์” ดูแลคนไข้ก่อนและหลังเข้ารับบริการในโรงพยาบาล ในรูปแบบของการดูแลผู้ป่วยจากโรงพยาบาล เป็นการสร้างฐานรายได้จากธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอ หรือที่เรียกว่า Recurring Income ปัจจุบัน เปิดศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ แล้ว 3 สาขา ในจังหวัดอุบลราชธานี 1 สาขา และอยู่ติดโรงพยาบาลศิริราช 2 สาขา
ในอนาคต “ศิริอรุณแคร์” ไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านี้แน่นอน