เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 ร.ต.อ.สนิท รัตนกันทา พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่ด่านตรวจห้วยไร่ว่า พบรถต้องสงสัยว่าบรรทุกไม้หวงห้ามมาผ่านด่าน จึงรายงาน พ.ต.ท.เมธี ยั่งยืน สวญ.สภ.ห้วยไร่ ทราบ
เบื้องต้นขณะที่เจ้าหน้าที่ด่านตรวจห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ กำลังตั้งจุดตรวจ พบรถต้องสงสัยเป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมกซ์ สีขาว ทะเบียน ปท 8388 อุบลราชธานี มีนายสุรสิทธิ์ เค้าสา อายุ 34 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี เป็นคนขับรถ ตรวจค้นรถโดยรอบพบมีกลิ่นสีโชยออกมาอย่างแรงจึงเรียกตรวจสอบจนพบว่าที่กระบะท้ายรถมีผ้าใบคลุมอยู่
- ไฟไหม้บ้านวอด 2 หลัง
- ขาดทุนหลักแสน พิษโควิด 19 ทำดาวเรืองราคาตกวูบ
- ผุดโครงการแหล่งน้ำบาดาลเทคโนโลยีขั้นสูงแก้ภัยแล้งซ้ำซาก
พอเปิดออกพบไม้จำนวนมาก ซึ่งทาสีเพื่ออำพรางโดยให้ดูว่าเป็นไม้ที่ผ่านการใช้งานแล้ว หรือผ่านการเป็นสิ่งปลูกสร้างมาแล้วแต่ยังมีกลิ่นเหม็นอยู่จึงทำให้เจ้าหน้าที่สามารถจับพิรุธได้จึงประสานนายพิษณุพันธ์ วงศ์ขันธ์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.ที่ 3 สาขาแพร่, ร.ต.อ.อำนวย จันทะวงษ์ พร้อมเจ้าหน้าที่งานตำรวจ กก.4 บก.ปทส., เจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 32 พะเยา โดย ด.ต.ภูดิส ต๊ะนิล และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พร.12 (แม่จั๊วะ) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมตรวจสอบไม้ดังกล่าว
โดยนายสุรสิทธิ์ให้การภาคเสธว่รับจ้างขนต้นไม้มาจาก จ.นครนายก ไปส่งที่ จ.เชียงใหม่ จากนั้นได้รับการติดต่อจากนายเจี๊ยบว่าให้ไปบรรทุกไม้จาก จ.พะเยา ให้ไปส่งที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้ส่งพิกัดที่จะให้ไปส่งของมาที่ไลน์ส่วนตัว โดยยังไม่ได้ตกลงเรื่องค่าจ้างบรรทุก โดยมีเอกสารเพียงใบส่งของและใบเสร็จรับเงินที่ได้มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งใบเสร็จระบุชื่อที่อยู่คนซื้อคือร้านพรรณิภา จ.บุรีรัมย์
จากการตรวจสอบไม้ทั้งหมดพบเป็นไม้ประดู่ท่อน 2 ท่อน และไม้ประดู่แปรรูป 7 แผ่น ลักษณะเป็นตาไม้ ตอไม้ อายุหลาย100 ปีซึ่งเป็นที่นิยมของต่างชาติไม่พบรูปรอยดวงตราของรัฐหรือเอกชน หรือเคยผ่านการปลูกสร้างมาก่อน และไม่มีหลักฐานใดๆ มาแสดงจึงได้ตั้งข้อกล่าวหาฐาน ผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 48 ข้อหาฐาน “มีไม้กระยาเลยหวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”,มาตรา 69 ฐาน “มีไม้กระยาเลยหวงห้ามซึ่งยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต” ,มาตรา 70 ข้อหาฐาน “ผู้ใดรับไว้ด้วยประการใด ซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้น ซึ่งไม้หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้มาโดยกระทำผิดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ มีความผิดฐานเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น”ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายสุรสิทธิ์ พร้อมของกลางไม้ประดู่ทั้งหมด และรถยนต์ที่ใช้ นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เรื่องโดย กัญญสร ถิ่นทิพย์ | ภาพโดย กัญญสร ถิ่นทิพย์