สยามรัฐออนไลน์
1 กุมภาพันธ์ 2564 17:00 น.
คุณภาพชีวิต
1 ก.พ.2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์ และความคืบหน้าผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศไทยว่า วันนี้มีรายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 836 ราย โดยแบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 832 ราย คือ ผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 39 ราย ซึ่งทั้งหมดมีประวัติไปสถานที่เสี่ยงอื่น มีอาชีพเสี่ยง หรือสัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้านี้ รวมทั้งอยู่ระหว่างสอบสวนโรค และค้นหาเชิงรุกอีก 793 ราย นอกจากนี้ยังมีติดเชื้อจากต่างประเทศ 4 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 19,618 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนักจำนวน 16 ราย เป็นผู้ที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 11 ราย อยู่ในกรุงเทพมหานคร 7 ราย นครปฐม สมุทปราการ อุบลราชธานี และขอนแก่น จังหวัดละ 1 ราย อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการระบาดรอบใหม่ในประเทศขณะนี้รักษาสถิติได้ดี จังหวัดที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อยังคงที่ 14 จังหวัด และจังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อมากกว่า 7 วัน มี 42 จังหวัด จึงหวังว่าสัปดาห์ถัดไปจะมีจังหวัดที่เพิ่มมากขึ้นอีก
นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า หลังจากมีมาตรการปูพรมค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชนโดยเฉพาะสมุทรสาคร ทำให้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เกิน 700 รายต่อวันมาต่อเนื่อง มีบางวันสูงถึง 959 ราย การค้นหาผู้ติดเชื้อแสดงให้เห็นถึงมาตรการที่เหมาะสมเพื่อจัดที่อยู่ ดูแลสุขภาพผู้ติดเชื้อ ผู้สัมผัสและติดตามว่ามีการขยายวงระบาดเพิ่มเติมหรือไม่ ในขณะที่เริ่มผ่อนคลายมาตรการจึงอยากฝากให้ประชาชนต้องใส่ใจป้องกันความเสี่ยงให้ดี ปฏิบัติตามมาตราการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ซึ่งทั้งหมดนั้นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของสังคม และหากจำเป็นต้องเดินทางข้ามจังหวัดขอให้ดูประกาศจากจังหวัดปลายทางที่จะต้องเดินทางไป แต่จะต้องเข้มงวดมาตรการป้องกันโรคด้วยการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และล้างมือ ทั้งนี้ บางจังหวัดสามารถประกาศนโยบายที่เข้มงวดขึ้นได้ เพื่อคัดกรองผู้เดินทางเข้าพื้นที่ เช่น ผู้เดินทางจากจังหวัดสีแดง ให้เฝ้าระวังอาการอยู่ที่บ้าน ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น ส่วนกรณีสมุทรสาคร ที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ขอให้หลีกเลี่ยงการเดินทางให้มากที่สุด
สำหรับการผ่อนคลายมาตรการตามแต่ละพื้นที่นั้น นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า ในส่วนของร้านอาหารนั้น ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด คือ สมุทรสาคร นั่งรับประทานได้ถึง 21.00 น. พื้นที่ควบคุมสูงสุด คือ กทม. สมุทรปราการ นนทบุรีและ ปทุมธานี และพื้นที่ควบคุม นั่งในร้านได้ถึง 23.00 น. ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังสูงสุดและพื้นที่เฝ้าระวัง นั่งได้ตามเวลาที่กฎหมายกำหนด แต่ไม่สามารถนั่งดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ และยังไม่มีการเปิดสถานบริการ ผับบาร์ คาราโอเกะ ส่วนพื้นที่ควบคุม สามารถเปิดและนั่งดื่มได้ถึงเวลา 23.00 น. พื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด เปิดได้ถึงเวลา 24.00 น. และพื้นที่เฝ้าระวัง ทำได้ตามเวลาที่กฎหมายกำหนด ในส่วนของสถานศึกษา พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ยังไม่สามารถเปิดได้ พื้นที่ควบคุมสูงสุด ใช้การเรียนแบบผสมผสาน ส่วนพื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด และพื้นที่เฝ้าระวัง สามารถเปิดเรียนได้ตามปกติ