เมื่อวันที่ 24 ส.ค. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า ในช่วงนี้สภาพอากาศของประเทศไทยไม่ค่อยเอื้อต่อการปฏิบัติการฝนหลวง และไม่มีตัวแปรสำคัญที่จะทำให้ฝนธรรมชาติตกในปริมาณมาก จึงมีฝนตกเพียงเล็กน้อยถึงปานกลางเท่านั้น กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้น้อมนำศาสตร์ฝนหลวงพระราชทานมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติการทำฝนให้มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด ขณะเดียวกัน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังคงร่วมกับกองทัพบกและกองทัพอากาศ ปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร และการเติมน้ำให้กับเขื่อนและอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศ โดยจากผลการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ จำนวน 9 หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.กำแพงเพชร อุทัยธานี นครสวรรค์ ลพบุรี ชัยนาท อ่างทอง เพชรบูรณ์ กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ ยโสธร กาฬสินธุ์ สระแก้ว เพชรบุรี และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ จำนวน 11 แห่ง นอกจากนี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จะมีการรายงานแผนและผลการปฏิบัติการฝนหลวง พร้อมนำข้อมูลการขอฝนและการรายงานพื้นที่ที่มีฝนตกของพี่น้องประชาชนมาประมวลผลให้รับทราบทุกวันทางการ Live สด ที่เพจ Facebook “กรมฝนหลวงและการบินเกษตร” เวลา 10.30 น. เพื่อเป็นช่องทางการสื่อสารให้พี่น้องประชาชนสามารถเข้ามาพูดคุย ขอรับบริการฝนหลวงหรือสามารถเข้ามาร่วมส่งข่าวประชาสัมพันธ์ด้านน้ำได้ในทุกวัน
สำหรับในช่วงเช้านี้สภาพอากาศเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จึงมีการวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 7 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ได้แก่
– หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.กาญจนบุรี มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.สุพรรณบุรี จ.กาญจนบุรี พื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำกระเสียว ห้วยเทียน และเขื่อนศรีนครินทร์
– หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.สุราษฎร์ธานี มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.สุราษฎร์ธานี และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนรัชชประภา
– หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.ขอนแก่น มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม และ จ.ชัยภูมิ
– หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.อุบลราชธานี มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ศรีสะเกษ สุรินทร์ ร้อยเอ็ด และ จ.อุบลราชธานี
– หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.นครราชสีมา มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.นครราชสีมา บุรีรัมย์ และ จ.ชัยภูมิ
– หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.สระแก้ว มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.สระแก้ว ฉะเชิงเทรา พื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำคลองสียัด คลองระบม และห้วยยาง
– หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.เพชรบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ พื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนแก่งกระจาน และอ่างเก็บน้ำใน จ.เพชรบุรี และ จ.ประจวบคีรีขันธ์
อย่างไรก็ตาม หน่วยปฏิบัติการในพื้นที่อื่นๆ จะติดตามสภาพอากาศตลอดทั้งวัน หากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงและเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวงจะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายทันที โดยมีเพียง 1 หน่วยฯ ไม่มีการขึ้นปฏิบัติการคือ หน่วยฯ จ.สุรินทร์ เนื่องจากเจ้าหน้าที่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ทั้งนี้ พี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100